จักรวาลในจักรวาล
จักรวาลไม่ได้ใหญ่หรือเล็ก
มีกาตูนร์เรื่องหนึ่ง ได้เสนอเนื้อหาของช้างตัวหนึ่งที่อยู่ๆก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
ดังมาจากฝุ่นละอองเล็กๆ พอสังเกตุด้วยความตั้งใจก็พบว่ายังมีอีกโลกหนึ่งอาศัย
อยู่ในฝุ่นละอองนั้น และยังเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมาย
ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ได้ต่างจากความเป็นจริงมากนัก เราเข้าใจว่าจักรวาลนั้น
กว้างใหญ่นัก แต่มันก็ในความรู้สึกของเราเอง ความรู้สึกของมนุษย์ ความเป็นจริงคือจักรวาล
มันมีอยู่ทุกที่ ทุกอตอม แม้แต่ในเนื้ออตอมของเราเอง ยังมีโลกธาตุอีกมากมาย
และก็ไม่มีที่สิ้นสุดหมายถึงสิ่งมีชีวิตก็มีไม่สิ้นสุดเหมือนกัน อาจจะมีมนุษย์เช่นเรา
กำลังนั่งอยู่ในอตอมของเรา และในตอตอมของเค้า ก็ยังมีจักรวาลและโลกธาตุ
ต่อไปอีกไม่มีวันสิ้นสุด จักรวาลของเราก็คงเป็นแค่ส่วนเล็กๆของอีกจักรวาลที่ใหญ่กว่าในเมื่อเราเคลื่อนไหวตลอดเวลา หรือบางครั้งก็อาจเดินเตะฝุ่นเตะอตอม มันจะมีผลกระทบกับจักรวาลในนั้นหรือไม่ แน่นอนว่ากระทบ แต่หากเราอยู่ในนั้น ก็คงไม่รู้สึกอะไรหรอก เหตุผลก็คือ เวลาของแต่ละจักรวาลมันต่างกัน ความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นมันช้ามากในความรู้สึกของคนในจักรวาลนั้น กว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นจะสิ้นสุด มันก็คงผ่านไปหลายล้านชั่วชีวิต เกิดตายกันเป็นล้านรุ่น เหมือนที่จักรวาลของเราเปลี่ยน แปลงอย่างช้าๆ จนเราไม่รู้สึกอะไรเลย
จักรวาลไม่มีวันสิ้นสุด เหมือนกับการนับเลขที่ไม่มีสิ้นสุด
มันเป็นอย่างนั้นแล้วชีวิตเราล่ะมีสิ้นสุดมั๊ย ...
สิ้นสุดเมื่อตายหรอ...
เปล่าเลย ไม่เคยมีอะไรหาย ไปจากจักรวาล มันแค่เปลี่ยนสภาพ เหมือนน้ำที่แห้งหายมันก็แค่เปลี่ยนเป็นก๊าซ และรอเวลาที่ต้องเปลียนไปอีกไม่สิ้นสุด ไม่มีอะไรคงสภาพเดิมอย่างถาวร ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมของแต่ละธาตุ
เราจะพบที่สิ้นสุดได้อย่างไร คำตอบก็คือทำอย่างไรให้เราพ้นจาก ขอบเขตของจักรวาลพ้นจากการเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล แล้ววิธีการล่ะ คุณลองศึกษาศาสนาพุทธให้ลึกซึ้งซิ คำตอบของภาวะก่อนเกิดบิ๊กแบงอาจอยู่ที่นั่น
มนุษย์ดาวนี้ยังอ่อนเยาว์นัก จิตของเรามันหยาบเกินไป วิธีการดำเนิน ชีวิตของเราก็ไร้สาระสิ้นดี ทุกวันเราแสวงหาสุขจากภายนอกกาย แต่สุดท้าย ก็คือแสวงหาทุกข์นั่นเอง ตื่นจากทารกก็ถูกปลูกฝังในวิธีการเดิมๆ เราไม่มีโกาส เรียนรู้ความเป็นจริงของธรรมชาติเท่าที่ควร บางที่อาจเป็นเพราะอายุไขของเรา มันสั้นเกินไป หากเรามีเวลามากกว่านี้อาจทำให้เราโตขึ้นได้บ้าง ไม่แปลกเลยที่มนุษย์จากที่อื่นจะฉลาดกว่าเรา จิตเค้าละเอียดกว่าเรานัก