บทความ

คำยืนยันของอดีตเจ้าหน้าที่นาซา ถึงความมีตัวตนของมนุษย์ต่างดาว

      เดลี่เมล์ ฉบับ 24 ก.ค. รายงานว่า ดร.เอ็ดการ์ มิตเชลล์ วัย 77 ปี นักบินอวกาศระดับตำนานของสหรัฐอเมริกา เล่าเรื่องประหลาดที่ไม่มีหลักฐานว่า มนุษย์ต่างดาว หรือ เอเลี่ยน มีจริง เคยติดต่อและมาเยือนโลกมนุษย์หลายครั้ง แต่รัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งรัฐบาลอีกหลายๆ ชาติปกปิดความจริงนี้ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ ยูเอฟโอตกในเมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐ เมื่อปี 2490 ด้านโฆษกสำนักงานอวกาศสหรัฐ หรือนาซ่า ออกแถลงการณ์โต้ทันควันว่า นาซ่าไม่เคยมีโครงการค้นหายูเอฟโอ หรือเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการปกปิดเรื่องราวการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว ไม่ว่าบนพื้นโลกหรือในสถานที่แห่งใดในจักรวาลก็ตาม ดร.เอ็ดการ์เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ แต่ความเห็นนี้ไม่ได้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับนาซ่า ดร.เอ็ดการ์ เปิดเผยเรื่องเหลือเชื่อขณะให้สัมภาษณ์รายการวิทยุเคอร์แรงของอังกฤษที่มีนายนิก มาร์เกอร์ริสัน เป็นพิธีกรว่า ตนทำงานอยู่ในนาซ่านานมากพอจนมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลระดับสูง ทั้งยังได้รับข้อมูลวงในจากกองทัพและหน่วยข่าวกรองว่า เอเลี่ยนมาเยือนโลกเราหลายครั้ง และสิ่งมีชีวิตนอกโลกเหล่านี้มีเทคโนโลยีเหนือกว่ามนุษย์หลายเท่า ถ้าหากมนุษย์คิดเ

แหล่งอารยะธรรมจากนอกโลก ตอนที่2

รูปภาพ
แน่นอนครับ ว่าการสร้างเมือง Derinkuyu ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างชาญฉลาดและอาจผสมผสานการใช้ เทคโนโลยีที่เราคาดไม่ถึง นักโบราณคดีและผู้เชี่ยวขาญเชื่อว่ามันถูกสร้างมาเพื่อหลบซ่อนตัวจากใครสักคนหรืออะไรบางอย่าง  จากจารึกโบราณ เทพเจ้าอะโรฮามักดา ลอยขึ้นไปบนฟากฟ้าพร้อมกับรถเทียมม้าต่อสู้กับศัตรูคู่อาฆาตไม่มีวันจบสิ้น แต่เป็นความเชื่อของนักทฤษฎีอวกาศยุคโบราณที่ว่า สิ่งมีชีวิตนอก พิภพต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงโลกและทรัพยากร ศัตรูบนอากาศคือสิ่งมีชีวิตนอกพิภพ เพราะว่าพวกเค้า มีความสามารถในการบิน มีเครื่องมือ อุปกรณ์ ลักษณะเดียวกับที่เราได้ข้อมูลจากวัฒนธรรมยุคโบราณซึ่งมีความคล้ายคลึงกันจากทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัด และด้วยเหตุนี้อาจมีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนว่าถ้ำถูกนำมาใช้เพื่อพักพิงและหลบภัยจากการต่อสู้กันบนอากาศ  ระหว่างการบันทึกประวัติศาสตร์ มีคนมากมายได้หลบซ่อนตัวอยู่ใต้ดินซึ่งประมาณการกันว่าจำนวนผู้คนไม่น้อยกว่า 30,000 คน เพื่อหลบหนีทุกสิ่งทุกอย่าง นับตั้งแต่พายุทะเลทราย ไปจนถึงนักรบชาวโรมัน แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนเกิดความสงสัยว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นเหตุผลในการสร้างเมืองใต้ดินหรือไม่

Crop Circles สัญลักษณ์ในไร่ข้าว

รูปภาพ
Crop Circles สัญลักษณ์ในไร่ข้าว Crop Circles ได้ถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศอังกฤษเมื่อปี 1678 ไม่มีใครอธิบายได้ว่ามันคืออะไร ซึ่งนำไปสู่การอธิบายด้วยทฤษฎีแรกคือร่องรอยการลงจอดของยานจากต่างดาว ตามมาด้วยทฤษฎีอุกกาบาตและทฤษฎีพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก ในปี 1980 ได้มีการค้นพบ Crop Circles เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรอบๆเมืองวอร์มินสเตอร์(Warminster) ในช่วงต้นของทศวรรษนี้รูปทรงของมันก็ยังคงเหมือนเดิม คือเป็นวงกลมหยาบๆ แต่ในกลางทศวรรษรูปทรงของมันซับซ้อนขึ้น คือมีวงแหวนแตกออกไป และมันเริ่มดึงดูดใจคนอังกฤษมากขึ้น ในทศวรรษนี้เอง ด๊อกเตอร์ เทอร์เรนซ์ มีเดน(Terrence Meaden) ศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และนักอุตุนิยมวิทยาได้พยายามไขปริศนานี้ โดยทำการวิจัยครอปเซอร์เคิลมากกว่า 1,000 แห่ง มีการเสนอทฤษฎีว่า ครอปเซอร์เคิลเกิดจากความผิดปกติของอากาศที่เขาเรียกว่า Plasma Vortexทำให้เกิดลมหมุนวนในระดับสูงแล้วเคลื่อนตัวลงสู่พื้นทำให้พืชแบนราบ ทฤษฎีนี้ได้รับการสนับสนุนจากผลการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นคือ ศาสตราจารยโอซึกิ (Ohtsuki) เขาใส่พลาสมา (plasma Fireballs) ลงในถาดแป้ง ผลปรากฏว่ามันทำให้เกิดวงแหวนสองชั้นร

วัตถุลึกลับที่ถูกส่งมาจากโครงการ TSS-1R

รูปภาพ
หนึ่งในความลึกลับที่สุดเท่าที่เคยจับภาพได้ เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติภารกิจกระสวยอวกาศของนาซา ซึ่งได้เปิดตัวเมื่อวันอาทอตย์ ที่ 22 กุมภาพันธ์ 1996 โดยกระสวยอวกาศโคลัมเบียได้ถูกนำขึ้นสู่วงโครจร เพื่อทำการทดลองที่เรียกว่า 'Tethered Satellite system (TSS-1R)'เป็นการทดลองเพื่อพยายามผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้สนามแม่แหล็กโลก ภาพที่น่าสนใจที่สุดในภารกิจนี้ถูกถ่ายไว้ได้จากยานขนส่ง โดยนักบินอวกาศชื่อ 'Claude nicollier' โดยใช้กล้องวิดีโอที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถจับภาพคลื่นแสงที่มนุษย์มองไม่เห็น หรือ อัลตร้าไวโอเลต ภาพที่ได้เป็นวัตถุประหลาดจำนวนมากหลายขนาด กำลังเคลื่อนที่ไปในหลายทิศทาง และบางวัตถุสามารถแปล่งแสงออกมาได้  'Claude nicollier' จากคำอธิบายของนักวิทยาศาสตร์ วัตถุลึกลับเหล่านี้เป็นเพียงอนุภาคน้ำแข็ง แต่เมื่อดูภาพจากวิดีโอ ก็จะสามารถคำนวนได้ว่าวัตถุดังกล่าวเหล่านั้นมีเส้นศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 3 กิโลเมตร หรือมากกว่าเสียด้วยซ้ำ และจากการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นอนุภาคน้ำแข็งอย่างที่นาซากำลังพยายามอธิบาย

มนุษย์ต่างดาวลักพาตัว

รูปภาพ
สวัสดีพี่น้องนักล่า UFO กันทุกท่านนะครับ หลังจากที่ไม่ได้อัพเดทข้อมูลกันมานาน วันนี้ได้นำเรื่องเหลือเชื่อมาฝากอีกตามเคยนะครับ  เมื่อประมาณกลางเดือนธันวาคมในปี 2010 เวปไซต์ชื่อดังด้านข้อมูล UFO หรือที่รู้จักในชื่อ  'conspiracies Cosmic' ได้รับการติดต่อจากสตรีท่านหนึ่งที่อ้างว่าเธอถูกลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว เรื่องนี้กลายเป็นข้อพิสูจน์ที่เป็นหลักฐานใหม่ หลังมีผู้คนมากมายจากทั่วโลกเชื่อว่าตัวเองเคยถูกลักพาตัวโดยมนุษย์ต่างดาว และหลักฐานใหม่ที่ว่าก็คือภาพวิดีโอที่ถูกถ่ายได้โดยกล้อง CCTV ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สามารถถ่ายเหตุการณ์เหลือเชื่อนี้ได้ สตรีท่านนี้(ยังไม่ต้องการให้เปิดเผยตัวตน)ได้เล่าว่า เธอได้เห็นเฮลิคอปเตอร์สีดำที่มากับชายชุดดำ(เธอเรียกว่า 'Men in Black' ซึ่งโอกาสต่อไปจะเล่าให้ฟัง) บินวนใกล้บ้านอยู่หลายวัน และก็ดูเหมือนจะจ้องมองมายังบ้านของเธอเหมือนกำลังหาข้อมูลอะไรบางอย่าง คืนหนึ่งเธอได้เผชิญหน้ากับบางสิ่งซึ่งเธอมั่นใจว่าเป็น UFO ภายในห้องนอนของตัวเอง และเธอก็เชื่อว่าได้ถูกลักพาตัวไปยังสถานที่หนึ่งที่ดูเหมือนเป็นยานของพวกมันและทำการทดลองบางอย่างซึ่งคล

การตอบกลับของมนุษย์ต่างดาว

รูปภาพ
โครงการ"เซติ"   มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่? คำถามที่มนุษย์โลกสงสัยและค้นหามาช้านาน แต่ก็ยังปราศจากคำตอบที่ชัดเจน “สิ่งมีชีวิตสีเขียว” ที่ ดร.อัลลี แอร์โรเวย์ ตัวละครเอกในเรื่อง “คอนแทค” มุ่งมั่นตามหามาตลอด สอดคล้องกับความกระหายใคร่รู้ของมนุษย์ที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับชีวิตที่อยู่ต่างดาว “คอนแทค” เกิดจากการผสมผสานเรื่องราวที่มีอยู่จริงเข้ากับเหตุการณ์สมมติได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ที่ตื่นเต้น ล้ำจินตนาการ โดยมีการอ้างถึงโครงการ “เซติ” ที่มีอยู่จริง   ตัวอย่างภาพที่เซติส่งออกไปเพื่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก เป็นภาพคน กล้องดูดาว ดีเอ็นเอ  “เซติ” (Search for Extraterrestrial Intelligence: SETI) หรือ การค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงปัญญานอกโลก ได้ทุนหลักจากองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) โดยใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดใหญ่ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านอกโลก ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ การค้นหาสัญญาณจากสิ่งมีชีวิตนอกโลกเริ่มมีขึ้นอย่างจริงจัง โดยปี 2518 ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ เรียกว่า “อะรีซิโบเมสเซจ” จากกล้องโทรทรรศน์วิทยุอะรีซิโบที่มีขนาดใหญ่ที่ส

แหล่งอารยะธรรมจากนอกโลก ตอนที่ 1

รูปภาพ
คนจำนวนนับล้านบนโลก เชื่อกันว่า เรามีผู้มาเยือนในอดีต ซึ้งเป็นสิ่งมีชีวิตนอกพิภพ และถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงล่ะ มนุษย์ต่างดาวโบราณ ได้ช่วยสร้างประวัติศาสตร์ของพวกเรางั้นหรือ และถ้าเป็นเช่นนั้น เราควรจะมองหาข้อพิสูจน์ความมีตัวตนของพวกเค้าได้อย่างไร ปี 1963 มีการบูรณะบ้านหลังหนึ่งในเมือง Derinkuyu ประเทศตุรกี นำไปสู่การค้นพบที่แปลกพิศดาร เมื่อผนังถ้ำเปิดออก มันเผยให้เห็นทางเดินที่นำไปสู่เมืองบาดาลอายุหลายพันปี มันลึกลงไปมากกว่า 280 ฟุต มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ เราค้นพบช่องระบายอากาศ ที่เชื่อมไปยังช่องต่างๆ ไม่น้อยกว่า 15,000 ช่อง และรองรับผู้คนได้ถึง 20,000 คน หลักฐานแสดงถึงจุดศูนย์รวมของพิธีกรรมทางศาสนา ห้องเก็บของ ห้องทำไวน์ และคอกปศุสัตว์ เมือง Derinkuyu อาจจะไม่ใหญ่โตมโหฬ เมื่อเทียบกับยุคปัจจุบัน แต่สำหรับในสมัยนั้น มันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เทียบได้กับปิระมิดเลยทีเดียว ที่เมือง Derinkuyu มีโครงสร้างหินที่อ่อนนุ่ม เราจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง ต้องมีเสาค้ำยันที่แข็งแรงและต้องอาศัยเทคโนโลยีในการสร้างถ้ำเหล่านี้ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่พบหลักฐานว่าเคยมีการถล่มของเมื